ธอร์กลืนน้ำลายหนัก เขารู้สึกราวกับกำลังเข้าไปสู่อาณาจักรสัตว์ที่เข้าถึงยาก ทุกอย่างที่นี่ให้ความรู้สึกแตกต่าง อากาศก็มีกลิ่นแปลกไป ไม่มีอะไรเตือนให้นึกถึงอาณาจักรวงแหวน เพื่อนคนอื่น ๆ หันมองหน้ากัน ธอร์เห็นแววตาลังเลของพวกเขา ทุกคนต่างสงสัยว่ามีสัตว์อะไรรอพวกเขาอยู่ภายในป่านั้น
แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือก กระแสน้ำพาพวกเขามาที่นี่ เห็นได้ชัดว่าสถานที่นี้เป็นที่ที่พวกเขาจะต้องขึ้นฝั่งไปสู่ดินแดนของจักรวรรดิ
“ทางนี้!” โอคอนเนอร์ตะโกน
พวกเขารีบวิ่งไปทางราวลูกกรงด้านโอคอนเนอร์ ขณะที่เขาชะโงกออกไปและชี้ลงไปในน้ำ มีแมลงขนาดใหญ่ตัวหนึ่งกำลังว่ายน้ำอยู่ที่ด้านข้างเรือ มันมีสีม่วงเรืองแสง ยาวสิบฟุต มีขานับร้อย มันเรืองรองอยู่ใต้ผิวน้ำ ก่อนจะรีบว่ายไปบนผิวน้ำ ขณะนั้นปีกเล็ก ๆ นับพันส่งเสียงกระพือ จนมันลอยขึ้นเหนือน้ำ จากนั้นจึงกลับลงไปที่ผิวน้ำ แล้วมุดลงไปใต้น้ำ ก่อนจะทำซ้ำเช่นนั้นอีกครั้ง
ขณะที่พวกเขากำลังมองดู จู่ ๆ มันก็กระโจนขึ้นสูงในอากาศ ที่ระดับสายตาของเด็กหนุ่มทุกคน บินร่อนอยู่ในอากาศ มองมาที่พวกเขาด้วยดวงตาโตสีเขียวสี่ดวง ส่งเสียงฟ่อ ทุกคนกระโดดถอยหลังอย่างไม่ตั้งใจ พลางจับดาบของตัวเอง
เอลเด็นก้าวไปข้างหน้า แล้วฟันใส่มัน แต่ดาบของเขากลับสัมผัสเพียงอากาศ มันกลับลงไปอยู่ในน้ำแล้ว
ธอร์และคนอื่น ๆ กระเด็นลอยไปบนดาดฟ้าเรือ เมื่อเรือหยุดกะทันหัน กระแทกเกยอยู่บนหาดทราย
ธอร์ใจเต้นเร็วเมื่อเขาชะโงกลงไปดู ด้านล่างเป็นชายหาดแคบ ๆ ที่เกิดจากหินขรุขระเล็ก ๆ นับพันสีม่วงสว่าง
แผ่นดิน พวกเขามาถึงในที่สุด
เอลเด็นนำไปที่สมอ พวกเขาช่วยกันยกแล้วหย่อนลงไป ทุกคนปีนลงไปตามโซ่ ก่อนจะกระโดดลงไปบนชายหาด ธอร์ส่งโครห์นให้เอลเด็นขณะที่ลงไป
ธอร์ถอนหายใจเมื่อเท้าสัมผัสพื้น มันช่างรู้สึกดีที่ได้เหยียบพื้นดิน แห้ง และมั่นคง เขาคงจะพอใจถ้าจะไม่ต้องแล่นเรือออกไปที่ไหนอีก
พวกเขาช่วยกันดึงเชือกแล้วลากเรือขึ้นมาบนหาดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“เจ้าคิดว่ากระแสน้ำจะพัดมันไปไหม?” เจ้าชายรีซตรัสถาม ทอดพระเนตรดูเรือ
ธอร์มองตาม ดูเหมือนเรือจะเกยอยู่บนหาดแน่นหนาดี
“ทอดสมอแล้ว คงพัดไปไม่ได้” เอลเด็นกล่าว
“กระแสน้ำคงไม่พามันไปหรอก” โอคอนเนอร์กล่าว “คำถามคือจะมีใครเอามันไปหรือไม่”
ธอร์มองดูเรืออยู่นานเป็นครั้งสุดท้าย และรู้ว่าเพื่อนของเขาพูดถูก หากพวกเขาพบดาบ พวกเขาอาจจะกลับมาเจอชายหาดว่างเปล่า
“แล้วเช่นนั้นเราจะกลับกันอย่างไร?” คอนวอลถาม
ธอร์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกราวกับว่าทุกขั้นตอนของการเดินทาง พวกเขาได้ตัดหนทางที่จะถอยหลังกลับ
“เราคงจะหาทางได้” ธอร์บอก “ถึงอย่างไรก็น่าจะมีเรือลำอื่นในจักรวรรดิใช่ไหม?”
ธอร์พยายามที่จะทำน้ำเสียงน่าเชื่อถือ เพื่อให้ความมั่นใจแก่เพื่อน ๆ แต่ลึกลงไปเขาก็ไม่มั่นใจนัก เขารู้สึกว่าการเดินทางครั้งนี้เริ่มอันตรายมากขึ้นเรื่อย ๆ
ทุกคนหันไปยังป่า แล้วจ้องมองดู กำแพงใบไม้ และความมืดมิดด้านหลัง เสียงสัตว์ป่าดังเซ็งแซ่ขึ้นรอบตัว ดังจนธอร์ไม่ได้ยินเสียงตัวเองคิด รู้สึกเหมือนกับสัตว์ต่าง ๆ ในจักรวรรดิกำลังส่งเสียงร้องต้อนรับพวกเขา
หรืออาจจะเพื่อเตือนพวกเขา
*
ธอร์และเพื่อน ๆ เดินไปพร้อมกันอย่างระแวดระวัง ทุกคนต่างระวังตัว เดินผ่านป่าทึบเขตร้อนไป ธอร์แทบจะไม่ได้ยินเสียงตัวเองคิด เพราะเสียงร้องของแมลงและสัตว์ที่ประสานเสียงกันเซ็งแซ่อยู่รอบตัวเขา แต่เมื่อมองเข้าไปในความมืดของหมู่ไม้ เขากลับไม่เห็นพวกมัน
โครห์นเดินอยู่แทบเท้าเขา ส่งเสียงคำราม ขนบนหลังตั้งชัน ธอร์ไม่เคยเห็นมันตื่นตัวแบบนี้มาก่อน เขามองดูเพื่อน ๆ และเห็นว่าแต่ละคนก็เป็นเหมือนเขา มือจับอยู่ที่ด้ามดาบ ทุกคนต่างระวังตัวเช่นกัน
พวกเขาเดินกันมาหลายชั่วโมงแล้ว ลึกเข้าไปในป่าเรื่อย ๆ อากาศเริ่มร้อนและหนักขึ้น ชื้นมากขึ้นจนยากที่จะหายใจ ทุกคนเดินไปตามรอยที่ครั้งหนึ่งน่าจะเป็นทางเดิน รอยกิ่งไม้หักหลายแห่งบอกให้รู้ว่าเส้นทางนี้มีกลุ่มคนที่มาถึงที่นี่เคยผ่านมาแล้ว ธอร์หวังว่ามันจะเป็นทางเดียวกับที่พวกขโมยดาบใช้
ธอร์เงยหน้ามองดูธรรมชาติอันน่าเกรงขาม ทุกสิ่งดูมีขนาดใหญ่โตเกินไป ใบไม้ใหญ่ขนาดเท่าตัวเขา ธอร์รู้สึกเหมือนเป็นแมลงในดินแดนยักษ์ เขาเห็นบางอย่างส่งเสียงแกรกกรากอยู่หลังใบไม้ แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร เขารู้สึกไม่ดีว่าพวกเขากำลังถูกจับตามอง
ทางตรงหน้าสิ้นสุดลงที่กำแพงใบไม้ทึบแห่งหนึ่ง พวกเขาหยุดและมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ
“ทางมันจะหายไปเฉย ๆ แบบนี้ได้อย่างไร!” โอคอนเนอร์บอกอย่างหมดหวัง
“ไม่หรอก” เจ้าชายรีซตรัส ทรงสำรวจดูกำแพงใบหม้ “ป่ามันโตกลับขึ้นมาเท่านั้นเอง”
“ถ้าอย่างนั้นเราจะไปทางไหนดีเล่าตอนนี้” คอนวอลถามขึ้น
ธอร์หันไปมองดูรอบ ๆ พลางนึกสงสัยในสิ่งเดียวกัน ทุกทิศทางมีแต่ใบไม้หนาทึบ และดูเหมือนจะไม่มีทางออก ธอร์เริ่มท้อแท้ และรู้สึกอับจนหนทางขึ้นทุกที
แต่แล้วเขาก็เกิดความคิด
“โครห์น” เขาบอกพลางคุกเข่าลง กระซิบข้างหูโครห์น “ปีนขึ้นไปบนต้นไม้ มองดูให้เราที บอกเราหน่อยว่าควรจะไปทางไหน”
โครห์นเงยหน้ามองเขาด้วยดวงตามีชีวิตชีวาของมัน ธอร์รู้สึกว่ามันเข้าใจที่เขาบอก
โครห์นวิ่งไปที่ต้นไม้ต้นมหึมา ลำต้นใหญ่เท่าคนสิบคน แล้วกระโจนขึ้นไปโดยไม่ลังเล มันตะกายปีนป่ายขึ้นไป ตรงขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระโจนไปยังกิ่งไม้ที่สูงที่สุดกิ่งหนึ่ง มันเดินไปยังปลายกิ่งแล้วมองออกไป หูตั้งชัน ธอร์รู้สึกมาตลอดว่าโครห์นเข้าใจเขา ซึ่งตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่ามันเข้าใจจริง ๆ
โครห์นหมอบและส่งเสียงครางแปลก ๆ ในลำคอ ก่อนจะรีบปีนกลับลงมาตามลำต้น แล้วกระโจนไปทางหนึ่ง เด็กหนุ่มมองหน้ากันด้วยความสงสัย ก่อนจะตามโครห์นไป มุ่งหน้าไปยังทางนั้นของป่า ใช้มือผลักใบไม้หนาให้พ้นทาง
หลังจากผ่านไปหลายนาที ธอร์รู้สึกโล่งอกที่เห็นรอยทางกลับมาอีกครั้ง กิ่งไม้และใบไม้ที่หักบอกให้รู้ว่ากลุ่มคนก่อนหน้าผ่านมาทางนี้ ธอร์ก้มลงไปตบเบา ๆ และจุมพิตโครห์นที่หัว
“ข้าไม่รู้ว่า พวกเราจะทำอย่างไรดีถ้าไม่มีมัน” เจ้าชายรีซตรัส
“ข้าก็เช่นกัน” ธอร์ทูลตอบ
โครห์นส่งเสียงครางอย่างพอใจ และภาคภูมิใจ
เมื่อพวกเขาเดินทางต่อลึกเข้าไปในป่า ตามเส้นทางคดเคี้ยว ในที่สุดก็ไปถึงแนวใบไม้แผ่ออก มีดอกไม้อยู่รอบตัวพวกเขา ดอกมหึมาขนาดเท่าตัวธอร์ เบ่งบานอยู่ทุกสีสัน ต้นไม้อื่นมีผลใหญ่ขนาดก้อนหินผาห้อยอยู่ตามกิ่งก้าน
พวกเขาหยุดชะงักด้วยความประหลาดใจ ขณะที่คอนวอลเดินไปหาผลไม้ผลหนึ่ง สีแดงเป็นประกาย เขายื่นมือขึ้นไปสัมผัสมัน
ทันใดนั้น มีเสียงคำรามดังขึ้น
คอนวอลขยับถอยหลัง พลางจับดาบ คนอื่นมองดูกันอย่างเป็นกังวล
“มันอะไรน่ะ?” คอนวอลถาม
“มันมาจากตรงนั้น” เจ้าชายรีซตรัส ชี้ไปยังอีกด้านของป่า
ทุกคนหันไปมอง แต่ธอร์ไม่เห็นอะไรนอกจากใบไม้ โครห์นคำรามใส่มัน
เสียงนั้นดังขึ้นเรื่อย ๆ ไม่หยุด จนในที่สุดกิ่งไม้ก็เริ่มส่งเสียงสวบสาบ ธอร์และคนอื่นก้าวถอยหลัง ชักดาบออกมาและรอคอยสิ่งเลวร้ายที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
สิ่งที่กำลังก้าวออกมาจากป่านั้นเกินความคาดหวังที่แย่ที่สุดของธอร์ แมลงตัวมหึมาที่ยืนอยู่ตรงนั้น ใหญ่กว่าธอร์ห้าเท่า ดูคล้ายตั๊กแตนตำข้าวที่ขาหลังสองขา ขาหน้าที่เล็กกว่าสองขากวัดแกว่งอยู่ในอากาศและมีก้ามยาวอยู่ที่ปลายทั้งสองข้าง ลำตัวของมันเป็นสีเขียวเรืองแสง เต็มไปด้วยเกล็ดและมีปีกเล็ก ๆ ส่งเสียงหึ่ง ๆ ในมีสองตาอยู่บนหัว และตาที่สามอยู่ที่ปลายจมูก มันขยับไปรอบ ๆ เผยให้เห็นก้ามอีกหลายอันซ่อนอยู่ใต้ลำคอ ขยับสั่นดังกึกกัก
มันยืนอยู่ตรงนั้น สูงค้ำทุกคน จู่ ๆ ก็มีก้ามอีกอันโผล่มาจากท้องของมัน เป็นแขนยาวผอมยื่นออกมา รวดเร็วเกินกว่าพวกเขาจะตอบโต้ได้ทัน มันยื่นออกมาคว้าโอคอนเนอร์ไว้ ก้ามสามอันกางออกแล้วหนีบรอบเอวเขา มันยกเขาขึ้นสูงไปบนอากาศ ราวกับเขาเป็นใบไม้สักใบ
โอคอนเนอร์เหวี่ยงดาบแต่ยังไม่เร็วพอจะฟันโดนเลย สัตว์ร้ายเขย่าตัวเขาหลายหน ทันใดนั้นมันก็อ้าปาก เห็นฟันคมเรียงกันหลายแถว มันจับโอคอนเนอร์เอียงและเริ่มหย่อนเขาลงไป
โอคอนเนอร์ร้องออกมาเมื่อวินาทีแห่งความเจ็บปวดและความตายปรากฏให้เห็น
ธอร์เริ่มลงมือโดยไม่ต้องคิด เขาหยิบลูกหินใส่หนังสติ๊ก เล็งแล้วยิงไปที่ตาดวงที่สามตรงปลายจมูกของมัน
มันเข้าเป้าอย่างจัง สัตว์ร้ายส่งเสียงร้องโหยหวน ดังพอที่จะล้มต้นไม้ลงได้ มันปล่อยตัวโอคอนเนอร์ ที่กลิ้งตกลงมากระแทกพื้นป่านุ่ม
เจ้าสัตว์ประหลาดโกรธจัด ก่อนจะหันไปหาธอร์
ธอร์รู้ว่าการปักหลักสู้กับสัตว์ตัวนี้คงไม่มีประโยชน์ เพื่อนของเขาอย่างน้อยหนึ่งคนคงจะถูกมันฆ่าตาย และอาจจะโครห์นด้วย และมันคงจะเปลืองแรงอันมีค่าของพวกเขา ธอร์รู้สึกว่าพวกเขาอาจจะไปล้ำอาณาเขตของมันเข้า หากพวกเขาสามารถหนีออกไปได้เร็วพอ มันอาจจะปล่อยพวกเขาไป
“วิ่ง!” ธอร์ตะโกน
ทุกคนหันหลังแล้ววิ่งหนี สัตว์ร้ายเริ่มไล่ตามหลังมา
ธอร์ได้ยินเสียงเล็บของมันตัดใบไม้หนาด้านหลังพวกเขา เฉือนผ่านอากาศ เฉี่ยวหัวเขาไปเพียงไม่กี่ฟุต เศษใบไม้ลอยขึ้นไปในอากาศ ก่อนจะโปรยปรายลงรอบตัวเขา ทุกคนวิ่งไปพร้อมกัน ธอร์รู้สึกว่าหากพวกเขาสามารถทิ้งระยะห่างได้มากพอ พวกเขาน่าจะหาที่กำบังได้ หรือถ้าหาไม่ได้ พวกเขาก็จะปักหลักสู้
แต่ทันใดนั้นเจ้าชายรีซทรงลื่นล้มลงข้างเขา ล้มลงใส่กิ่งไม้ หน้าทิ่มใส่ใบไม้หนา ธอร์รู้ว่าพระองค์คงจะลุกขึ้นมาไม่ทันแน่ เขาจึงหยุด ชักดาบออกมา แล้วยืนขวางระหว่างเจ้าชายกับสัตว์ร้าย
“วิ่งต่อไป!” ธอร์ตะโกนข้ามไหล่ไปบอกคนอื่น ขณะที่เขาปักหลัก เตรียมพร้อมปกป้องเจ้าชายรีซ
สัตว์ร้ายพุ่งเข้าใส่เขา ส่งเสียงร้องและเหวี่ยงก้ามใส่หน้าธอร์ เขาก้มหลบแล้วเหวี่ยงดาบไปพร้อมกัน สัตว์ร้ายส่งเสียงร้องน่ากลัวเมื่อธอร์ฟันก้ามมันขาดไปข้างหนึ่ง ของเหลวสีเขียวกระจายไปทั่วตัวธอร์ เขาเงยหน้าดู ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นก้ามของเจ้าสัตว์ร้ายงอกขึ้นมาใหม่อีกครั้งเร็วพอกับตอนที่โดนฟัดขาดไป ราวกับธอร์ไม่เคยทำร้ายมันเลย
ธอร์กลืนน้ำลาย มันคงจะเป็นสัตว์ที่ฆ่าไม่ตาย และตอนนี้เขาทำให้มันโกรธ