โรมูลัสยืนอยู่ณจุดศูนย์กลางของห้องในความเงียบ เขาไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานเท่าไหร่ที่เขาต้องถูกเผาอยู่ตรงนี้ เขารู้สึกถูกกระตุ้นให้เดินออกไป แต่เขาต้องหยุดตัวเองไว้
"โรมูลัสแห่งกองอ็อกทากิ้น" หนึ่งในสภาที่ปรึกษากล่าวอย่างเป็นทางการ
โรมูลัสหันไปเห็นที่ปรึกษาเป็นชายแก่ มีร่างผอม มีแก้มกลวงโบ๋และผมสีเทาที่มองเขากลับมาด้วยสายตาสีเลือดหมู ผู้ชายคนนี้เป็นเพื่อนสนิทของแอนโดรนิคัส แล้วโรมูลัสรู้ว่าตัวเขาจะต้องพูดอะไรที่เป็นที่ชื่นชอบของแอนโดรนิคัส
ชายแก่กระแอมลำคอ
"เจ้ากลับมาจากเมืองโวลูเซียด้วยความแพ้พ่ายอย่างน่าอดสู เจ้ากล้าหาญมากที่มาถึงยังที่นี่"
"เจ้ากลายเป็นผู้บังคับบัญชาที่สะเพร่าและทำอะไรอย่างเร่งเร้า"
โรมูลัสหันไปเห็นสายตาที่ดูถูกดูหมิ่นจ้องกลับมาจากอีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะวงกลม
"เจ้าสูญเสียกำลังคนไปหลายพัน จากการตามหาดาบที่ไร้ประโยชน์ ในการเผชิญหน้าอย่างสะเพร่ากับมังกร เจ้าได้ทำให้แอนโดรนิคัสและทั้งจักรวรรดิต้องผิดหวัง เจ้ามีอะไรจะพูดเกี่ยวกับตัวเองหรือไม่?"
โรมูลัสมองจ้องกลับไปอย่างท้าทาย
"ข้าไม่มีอะไรจะขอโทษ" เขากล่าวมา "การนำดาบกลับคืนมาเป็นสิ่งที่สำคัญของจักรวรรดิ"
ชายแก่อีกคนนึงเอนตัวมาข้างหน้า
"แต่เจ้า กอบกู้มันคืนมาไม่ได้ ใช่หรือไม่?"
โรมูลัสหน้าแดงขึ้นมา เขาอยากจะฆ่าผู้ชายคนนี้ถ้าเขาทำได้
"ข้าเกือบจะทำได้แล้ว" เขาตอบกลับมาในที่สุด
"เกือบจะทำได้ มันไม่ได้ มีความหมายอะไรเลย"
"พวกเราต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคที่ไม่คาดคิด"
"มังกร งั้นหรือ?" สมาชิกในสภาท่านหนึ่งให้ข้อสังเกต
โรมูลัสหันไปมองหน้าเขา
"เจ้าช่างบ้าระห่ำอะไรเช่นนี้?" สมาชิกในสภาอีกท่านหนึ่งกล่าว "เจ้าคิดว่าเจ้าจะชนะอย่างงั้นหรือ?"
โรมูลัสกระแอมลำคอขึ้น เมื่อความโกรธพุ่งสูงขึ้นมา
"ข้าไม่ได้หวัง จุดมุ่งหมายของข้าไม่ได้ต้องการจะฆ่ามังกร แต่เพื่อจะนำดาบกลับคืนมา"
"แต่ขอพูดอีกครั้ง เจ้าทำไม่ได้"
"ที่แย่ไปกว่านั้น" สมาชิกอีกท่านหนึ่งกล่าว "เจ้าได้ปล่อยมังกรให้มาปะทะกับเรา ได้มีรายงานถึงการโจมตีจากมังกรเกิดขึ้นอยู่ทั่วจักรวรรดิ เจ้าได้เริ่มสงครามที่เราเอาชนะไม่ได้ มันเป็นความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิ"
โรมูลัสหยุดความพยายามที่จะโต้ตอบ เขารู้ว่ามันก็จะนำไปสู่ข้อกล่าวหาและการแย้งกลับมา อย่างไรก็ดี พวกนี้คือคนของแอนโดรนิคัสและพวกเขาก็มีระเบียบวาระของตัวเอง
“มันน่าเสียดายที่ท่านแอนโดรนิคัสผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย เพื่อจะลงโทษแก่เจ้า” หนึ่งในคณะกรรมการสภากล่าว “ข้ามั่นใจว่า เขาจะไม่ปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่อีกต่อไป” เขากระแอมลำคอและนั่งพิงไปด้านหลัง “แต่ในเมื่อเขาไม่อยู่ เราจะต้องรอคอยการกลับมาของเขา ตอนนี้เจ้าก็จะควบคุมกองทัพที่ส่งกองเรือออกไปสนับสนุนท่านแอนโดรนิคัสผู้ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรวงแหวน เจ้าจะถูกลดขั้นลง ถูกถอดยศและถอดอาวุธออก ให้เจ้าอยู่ในที่พักและรอคอยคำสั่งอื่นๆจากพวกเรา”
โรมูลัสจ้องกลับไปโดยไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“จงดีใจที่เราไม่ได้ประหารเจ้าในที่นี้ ตอนนี้ไปได้แล้ว” หนึ่งในสมาชิกสภากล่าวขึ้น
โรมูลัสกำหมัดของเขาใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีม่วง เขามองลงไปยังใบหน้าของคณะกรรมการแต่ละคน เขาปฏิญาณว่าจากฆ่าสังหารพวกนี้ ทีละคนจนครบทุกคน แต่เขาบังคับตัวเองให้หลีกเลี่ยง บอกตัวเองว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เขาจะต้องได้รับความพอใจจากการฆ่าพวกเขาทั้งหมดแน่นอน แต่มันก็จะไม่ได้ทำให้เขาสำเร็จตามเป้าประสงค์
โรมูลัสหันหลังกลับและเดินย่ำกระหน่ำออกไปจากห้อง เสียงรองเท้าบู้ทดังสะท้อน เขาเดินไปผ่านประตูที่มหาดเล็กเปิดมันให้เขาและปิดมันดังลั่นอยู่ด้านหลัง
โรมูลัสเดินออกมาจากอาคารรัฐสภา เดินลงไปยังขั้นบันไดทองทำ แล้วไปยังกลุ่มทหารที่รอคอยเขาอยู่ เขาออกคำสั่งกับนายทหารยศรองลงมา
"นายท่าน" นายพลกล่าวขณะก้มหัวลง "คำสั่งของท่านคืออะไร?"
โรมูลัสจ้องกลับไปขณะที่กำลังคิด จริงอยู่ที่เขาไม่สมควรจะกระทำตามคำสั่งของคณะกรรมการสภา ในทางกลับกัน ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะคัดค้านฝ่าฝืนคำสั่ง
"มันคือคำสั่งของคณะสภาที่สั่งให้เรือรบจักรวรรดิที่อยู่ในน่านน้ำกลับมายังชายฝั่งของเราเดี๋ยวนี้"
สายตาของเหล่านายพลต่างเบิกกว้าง
"แต่นายท่าน นั่นจะเป็นการทำให้แอนโดรนิคัสผู้ยิ่งใหญ่ ถูกทิ้งไว้ในอาณาจักรวงแหวนและก็จะไม่มีทางกลับมายังบ้านเกิดได้"
โรมูลัสหันไปมองจ้องพวกเขาด้วยสายตาเย็นช้า
“อย่าตั้งคำถามกับข้า” เขาตอบมาในเสียงที่แข็งกระด้าง
นายพลก้มหัวของเขาลงได้
"ครับ นายท่าน ให้อภัยข้าด้วย" นายพลหันไปแล้วรีบเร่ง โรมูลัสรู้ดีว่าเขาควรจะกระทำตามคำสั่ง เขาเป็นทหารที่มีความจงรักภักดี
โรมูลัสยิ้มอยู่ภายในใจพวกกรรมการโง่เง่านั่นคิดว่าเขาจะ ทำตามพวกเขาจะยึดถือคำสั่งของพวกเขา พวกเขาประเมินตัวเขาต่ำไปอย่างมากจากนี้ไปพวกเขาจะไม่มีใครมาบังคับรถคันตำแหน่งของเขาได้จน กว่าที่พวกนั้นจะรู้ตัวโรมูลัสก็จะมีอำนาจแล้วก็จะ ออกคำสั่งเพื่อป้องกันให้พวกเขาเหล่านั้นมีอำนาจเหนือตัวเขาเองแอนโดรนิคัสป็นผู้ยิ่งใหญ่ แต่โรมูลัสนั้นยิ่งใหญ่กว่า