Блейк Пирс - วั๊นซ์ กอน стр 2.

Шрифт
Фон

ในที่สุดรีบ้าก็ได้ยินเสียงเชือกกระตุกขาด แทบไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น มือทั้งสองข้างของเธอเป็นอิสระแล้ว และทันใดนั้นขณะที่หัวใจยังเต้นโครมคราม เธอก็ตัดเชือกรอบเอวหลุด

ชั้นเป็นอิสระแล้ว ตัวเธอเองยังแทบไม่อยากจะเชื่อ

เป็นเวลาพักนึงเลยที่เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งยองๆกอดเข่าอยู่อย่างนั้น ทั้งมือและเท้ามันรู้สึกยุบยิบไปด้วยการสูบฉีดของเลือดที่คืนกลับมาไหลเวียนแบบเต็มสตรีมอีกครั้ง เธอเอานิ้วจิ้มๆไปที่คอนแทคเลนส์บนดวงตา พยายามหักห้ามใจตัวเองอย่างมากที่จะไม่ควักมันออก แล้วก็เขี่ยอย่างระมัดระวังไปไว้ด้านหนึ่ง ใช้นิ้วจิกและดึงมันออกมา ดวงตาของเธอนั้นปวดเอามากๆและตอนนี้มันก็โล่งมากที่กำจัดเจ้าคอนแทคเลนส์พวกนั้นออกไปได้ ขณะที่เธอจ้องดูแผ่นพลาสติกที่โค้งเหมือนแอ่งเล็กๆสองอันบนฝ่ามือนั้นเอง สีของมันก็ทำให้เธอรู้สึกคลื่นไส้ เลนส์มันออกเป็นสีฟ้าสว่างจ้า ดูไม่เป็นธรรมชาติเอาซะเลย ว่าแล้วเธอก็ปามันทิ้ง

หัวใจเต้นรัวจนแทบจะหลุดออกจากหน้าอก รีบ้าพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นและรีบกะเผลกไปที่ประตู คว้าลูกบิดประตูไว้แต่ยังไม่ยอมเปิด

แล้วถ้าเขาอยู่ข้างนอกล่ะ

เธอไม่มีทางเลือกเลย

รีบ้าหมุนลูกบิดและชักประตูเปิดออกอย่างไร้เสียง เธอมองทอดลงบนทางเดินยาวที่ว่างเปล่าสู่ห้องโถง มีเพียงแสงไฟที่ลอดผ่านช่องแง้มด้านขวาของประตู เธอค่อยๆย่องออกไปทั้งร่างกายอันล่อนจ้อนและเท้าที่เปลือยเปล่าอย่างเงียบเชียบ รอยแง้มของประตูบานนั้นเปิดออกไปสู่ห้องที่มีเพียงแสงไฟสลัว เธอหยุดยืนและจ้องมองเข้าไปภายใน มันเป็นแค่เพียงห้องรับประทานอาหารธรรมดาที่มีโต๊ะและเก้าอี้ ดูเหมือนปกติทั่วไป ราวกับว่ามีครอบครัวที่กำลังจะกลับมาทานข้าวเย็นพร้อมหน้ากันที่นี่ ผ้าม่านลูกไม้เก่าๆถูกแขวนลงมาปกคลุมหน้าต่างเอาไว้

ความสยองระลอกใหม่พุ่งขึ้นมาจ่อคอหอยเธอเลยทีเดียว ความธรรมดาของสถานที่แห่งนี้มันดูหลอนในแบบที่แม้แต่คุกใต้ดินก็ยังไม่รู้สึกวังเวงเท่า เธอมองลอดผ้าม่านออกไปและเห็นว่าข้างนอกมีแต่ความมืดมิด เธอดีใจขึ้นมาทันทีที่คิดได้ว่าความมืดจะทำให้เธอแอบหนีออกไปได้ง่ายขึ้น

รีบ้าหันกลับไปที่ทางเดินห้องโถง สุดทางเดินคือประตูอีกหนึ่งบาน-ประตูที่ยังไงก็ต้องนำออกไปสู่โลกภายนอก เธอกะเผลกไปและบีบกลอนประตูทองเหลืองไว้แน่น ประตูถูกดึงเปิดเข้าหาตัวเธออย่างแรงเผยให้เห็นความมืดด้านนอก

เธอมองเห็นชานระเบียงเล็กๆและสนามหญ้าถัดออกไป ท้องฟ้ายามค่ำคืนนี้ปราศจากแสงจากดวงจันทร์หากจะมีก็เพียงแต่แสงสว่างจากดวงดาวเท่านั้น ไม่มีแสงสว่างอื่นใดเลยในบริเวณแถบนี้-ไม่มีร่องรอยของบ้านเรือนข้างเคียง รีบ้าค่อยๆก้าวเท้าออกไปบนชานระเบียงและเดินลงไปในบริเวณสนามหญ้าที่แห้งแล้งและแทบจะไม่มีหญ้า ลมเย็นสดชื่นพัดเข้ามาเติมเต็มปอดที่ยังปวดหนึบอยู่

ในความหวาดผวาเธอยังรู้สึกตื่นเต้นดีใจระคนกันไปด้วย นี่แหละคือความปิติของการได้รับอิสรภาพ

รีบ้าสาวเท้าก้าวแรกเตรียมจะออกวิ่ง-แต่แล้วจู่ๆเธอก็รู้สึกเหมือนมือใครคว้าหมับอย่างจังเข้าที่ข้อมือของเธอ

ตามมาด้วยเสียงหัวเราะน่ารังเกียจที่คุ้นหู

สิ่งสุดท้ายที่เธอรู้สึกคือของแข็ง-อาจเป็นท่อนเหล็ก กระแทกลงบนศีรษะของเธอ แล้วสติสัมปชัญญะของเธอก็วนดิ่งลงสู่ห้วงลึกแห่งความมืดมิด

บทที่ 1

อย่างน้อยกลิ่นก็ยังไม่โชย เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ บิล เจฟฟรี่ส์ คิดในใจ

ระหว่างพลิกดูศพอยู่นั้น เขาก็พบกับร่องรอยแรกอย่างช่วยไม่ได้ มันปะปนมากับกลิ่นอันสดชื่นของต้นสนและกลิ่นสะอาดๆของไอน้ำที่ลอยมาจากลำธาร – กลิ่นซากศพนั่นเอง กลิ่นที่เขาควรจะเคยชินกับมันตั้งนานแล้ว แต่เขาก็ยังไม่รู้สึกชินกับมันอยู่ดี

ร่างล่อนจ้อนของหญิงสาวรายหนึ่งถูกจัดวางอย่างระมัดระวังบนหินขนาดใหญ่ริมลำธาร เธออยู่ในท่านั่ง สภาพร่างพิงอยู่กับหินใหญ่อีกก้อนหนึ่ง ขาเหยียดตรงและแบะออก แขนแนบอยู่ข้างลำตัว แขนขวานั้นบิดเบี้ยวเป็นทรงประหลาดซึ่งเขาเห็นและสันนิษฐานเลยว่าคงกระดูกหัก ผมหยักศกเป็นลอนนั้นเห็นได้ชัดเลยว่าเป็นวิกผมซึ่งดูสกปรกราวกับเป็นเรื้อนด้วยสีเข้มสีอ่อนของเลือดที่ปนกันอยู่บนนั้น รอยยิ้มสีชมพูของเธอนั้นคือรอยลิปสติกวาดทับลงบนปาก

อาวุธที่ใช้ในการฆาตกรรมนั้นยังรัดแน่นอยู่รอบๆคอ สันนิษฐานว่าเธอถูกรัดคอตายด้วยริบบิ้นสีชมพู ดอกกุหลาบพลาสติกสีแดงถูกวางอยู่ตรงปลายเท้าของเธอบนหินที่อยู่ด้านหน้า

บิลพยายามยกมือซ้ายของเธอขึ้นอย่างเบามือ แต่มันไม่ขยับเลย

“ร่างเธอยังอยู่ในภาวะแข็งตัวหลังเสียชีวิต” บิลบอกกับเจ้าหน้าที่สเปลเบร็น พร้อมกับย้ายไปนั่งยองๆลงที่อีกฟากหนึ่งของศพ “เสียชีวิตมาไม่เกิน 24 ชั่วโมง”

“ตาของเธอเป็นอะไรน่ะ” เจ้าหน้าที่สเปลเบร็นถามขึ้นมา

“โดนเย็บเปิดไว้ด้วยด้ายดำ” เขาตอบโดยไม่แม้แต่จะหันไปดูให้ชัดๆ

สเปลเบร็นจ้องเขาอย่างไม่เชื่อสายตา

“ไม่เชื่อก็ลองดูเองสิ” บิลกล่าว

สเปลเบร็นส่องลงไปที่ดวงตาทั้งสองข้าง

“พระเจ้า” เขาพึมพำเบาๆ บิลสังเกตว่าเขาไม่ได้หัวหดด้วยความขยะแขยงจึงรู้สึกพอใจอยู่ เขาเคยทำงานกับเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติงานมาหลายคน – บางคนก็ช่ำชองมานานเหมือนสเปลเบร็นนี่แหละ – แต่หากมาเจอสภาพแบบนี้ก็คงยังจะอ้วกแตกอ้วกแตนอย่างแน่นอน

ตัวบิลนั้นยังไม่เคยได้ร่วมงานกับเขามาก่อน สเปลเบร็นถูกเรียกตัวให้มารับเคสนี้จากศูนย์ปฏิบัติการเวอร์จิเนีย และ

เขาก็คือคนต้นคิดไอเดียที่จะเอาเจ้าหน้าที่จากหน่วยวิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากรในควอนติโก้มาช่วยคดีนี้ และนั่นคือสาเหตุว่าทำไมบิลถึงมาลงเอยอยู่ที่นี่

ฉลาดไม่เบา, บิลคิดในใจ

ดูๆแล้วสเปลเบร็นน่าจะอายุอ่อนกว่าเขาแค่ไม่กี่ปี แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ สเปลเบร็นดูมีความโชกโชนดูมีความเก๋าอยู่ในตัว เป็นลักษณะคนในแบบที่เขาชอบซะด้วยสิ

“เธอสวมคอนแท็คเลนส์นะ,” สเปลเบร็นสังเกต

บิลก้มลงไปดูเพื่อความแน่ใจ เขาพูดถูก คอนแท็คเลนส์สีฟ้าแข็งๆหลอนๆทำให้เขาต้องมองไปทางอื่น อากาศด้านล่างที่

ลำธารช่วงสายนี่ยังคงเย็นอยู่ แต่ถึงอย่างนั้น ดวงตาทั้งสองนั้นแบนติดอยู่ในเบ้าตา มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะระบุเวลาเสียชีวิตที่ชัดเจนได้ สิ่งเดียวที่เขาแน่ใจก็คือศพถูกนำมาไว้ที่นี่ช่วงเวลาไหนซักช่วงเมื่อคืนและถูกจัดแจงการวางท่า

เขาได้ยินเสียงจากใกล้ๆ

“ห่าองค์กรเอ๊ย”

บิลเหลือบตามองไปที่นายตำรวจพื้นที่สามนายที่ยืนห่างออกไปซักสามหลา พวกเขาเปลี่ยนเป็นซุบซิบอะไรกันฟังไม่รู้เรื่องแล้วตอนนี้ เขารู้ได้ทันทีว่าพวกนั้นตั้งใจให้เขาได้ยินไอ้สามคำเมื่อกี๊นี้แน่ๆ พวกนั้นมาจากยาร์เนลใกล้ๆนี้แหละ และพวกเขาก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบใจที่มีเจ้าหน้าที่เอฟบีไอโผล่มาอยู่ในที่เกิดเหตุนี้ด้วย พวกนั้นเขาคิดว่าสามารถจัดการคดีนี้กันเองได้

หัวหน้ากองกำลังพิเศษของพื้นที่รัฐโมวส์บี้มีความเห็นต่างในเรื่องนี้ เขาไม่เคยเจอเคสไหนที่ร้ายแรงไปกว่าการทำลายทรัพย์สิน การทิ้งขยะไม่เป็นที่ และการล่าสัตว์หรือตกปลาในเขตหวงห้าม และเขาก็รู้ด้วยว่าพวกตำรวจพื้นที่จากยาร์เนลนี่ไม่มีความสามารถพอจะจัดการกับเรื่องนี้ได้

บิลใช้เวลาเดินทางร้อยกว่าไมล์มาที่นี่โดยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อเขาจะได้มาถึงจุดเกิดเหตุก่อนที่ศพจะถูกเคลื่อนย้าย นักบินคนขับพาบินตามพิกัดมาจนถึงทุ่งหญ้าบนเนินเขาใกล้ๆนี้ ที่ๆหัวหน้ากองกำลังพิเศษและเจ้าหน้าที่สเปลเบร็นได้เจอกับเขาและหัวหน้ากองก็เป็นคนขับรถผ่านถนนลูกรังพาพวกเขาทั้งหมดลงจากเขามา เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุบิลพอจะมองเห็นพื้นที่เกิดเหตุได้รางๆจากบนถนน มันแค่ต้องเดินลงเขาต่อไปอีกนิดหน่อยจากลำธาร

ตำรวจที่ยืนทำหน้าหมดความอดทนกันอยู่ใกล้ๆนี้ได้สำรวจพื้นที่เกิดเหตุกันเรียบร้อยแล้ว บิลรู้ทันทีว่าพวกเขาคิดอะไรกันอยู่ พวกนั้นต้องการเคลียร์คดีกันเอง เจ้าหน้าที่เอฟบีไอสองหน่อนี้คงเป็นสิ่งสุดท้ายที่พวกเขาอยากจะเห็น

โทษทีนะ ไอ้พวกใจแคบ บิลคิดในใจ แต่พวกแกฝีมือไม่ถึงจะทำคดีนี้หรอก

“นายอำเภอคิดว่านี่เป็นการค้ามนุษย์” สเปลเบร็นกล่าว “แต่เขาผิดแล้วหละ”

“ทำไมถึงคิดแบบนั้น?” บิลถามออกไป เขารู้คำตอบอยู่แล้ว แค่อยากจะลองดูว่ากระบวนความคิดของสเปลเบร็นทำงานยังไง

“เธออายุ 30 กว่าแล้ว ไม่ใช่ว่าจะยังเอ๊าะอะไร” สเปลเบร็นอธิบาย “ริ้วรอยแตกลายงานั่น เธอก็ต้องเคยผ่านการมีลูกมาแล้วอย่างต่ำ 1 คน ไม่ใช่ลักษณะเหยื่อปกติของพวกค้ามนุษย์”

“คุณพูดถูก” บิลตอบ

“แล้ววิกผมนี่ล่ะ?”

บิลส่ายหัว

“เธอโดนโกนหัว” บิลตอบ “เพราะฉะนั้นไม่ว่าไอ้เจ้าวิกนั่นจะใส่มาไว้เพื่ออะไร มันไม่ได้เอาไว้อำพรางสีผมของเธอแน่”

“แล้วกุหลาบล่ะ” สเปลเบร็นถามต่อ “ความนัยงั้นเหรอ?”

บิลตรวจดูอีกครั้ง

“ดอกไม้ปลอม ถูกๆ” เขาตอบ “แบบที่หาได้ทั่วไปในร้านขายของราคาถูก เราตรวจสอบได้แต่คงไม่เจอคำตอบอะไร”

สเปลเบร็นมองมาทางเขา ออกอาการทึ่งอย่างเห็นได้ชัด

บิลไม่คิดว่าจะมีหลักฐานที่ตรวจพบแล้วชิ้นไหนที่จะช่วยแก้ปมให้พวกเขาได้ อาชญากรรายนี้มันดูจงใจเกินไป ดูมีระเบียบแบบแผนมากไป ซีนเกิดเหตุมันดูเหมือนถูกจัดฉากไว้แล้วแบบจิตๆ ที่ทำให้ตัวเขาเองนึกหวาดอยู่เหมือนกัน

เขาเห็นว่าตำรวจท้องที่นั้นออกอาการกระสันต์อยากจะเดินเข้ามาเพื่อปิดคดีนี้ รูปถ่ายสถานที่เกิดเหตุก็ถ่ายไว้แล้ว และตอนนี้ศพก็อาจถูกเคลื่อนย้ายได้ทุกเมื่อ

เขายืนถอนหายใจ รู้สึกขาแข้งมันแข็งไปหมด อายุเลข 4 ของเขามันกำลังเริ่มทำให้เขาทำอะไรได้ช้าลง อย่างน้อยก็ช้าลงนิดหน่อย

“เธอถูกทรมาน” เขาสังเกตและถอนหายใจออกมาอย่างสลด “ดูรอยบาดพวกนี้สิ บางรอยปากแผลเริ่มจะปิดแล้ว” เขาส่ายหัวขึงขัง “ไอ้คนๆนั้นมันทรมานเธอมาหลายวันก่อนกำจัดเธอทิ้งด้วยริบบิ้นนั่น”

สเปลเบร็นถอนหายใจ

“ผู้ต้องหามันต้องฉุนเฉียวอะไรซักอย่าง” สเปลเบร็นออกความเห็น

“เฮ้ เราจะปิดจ็อบกลับกันเมื่อไหร่เนี่ย?” ตำรวจนายหนึ่งตะโกนถาม

บิลมองไปทางด้านที่พวกเขายืนอยู่และเห็นว่ากำลังย่ำเท้าอย่างไม่เป็นสุขกันแล้ว สองคนในนั้นก็บ่นฮึ่มฮั่มกันเงียบๆ

เขารู้ว่าพวกนั้นปฏิบัติหน้าที่ตรงนี้กันเสร็จแล้ว แต่เขาก็ไม่เอ่ยอะไร เขาอยากจะให้เจ้าพวกโง่นั่นรออย่างสงสัยต่อไปมากกว่า

Ваша оценка очень важна

0
Шрифт
Фон

Помогите Вашим друзьям узнать о библиотеке

Скачать книгу

Если нет возможности читать онлайн, скачайте книгу файлом для электронной книжки и читайте офлайн.

fb2.zip txt txt.zip rtf.zip a4.pdf a6.pdf mobi.prc epub ios.epub fb3

Похожие книги

Агний
11.1К 38

Популярные книги автора